คอมพิวเตอร์ทำงานด้วยหลักการทางอิเลกทรอนิกส์ที่ใช้สัญญานทางไฟฟ้าแทนตัวเลขศูนย์และหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวเลขในระบบฐานสองแต่ละหลักเรียกว่า บิตและเมื่อนำตัวเลขหลายๆบิตมาเรียงกัน จะใช้สร้างรหัสแทนจำนวนอักขระหรือสัญลักษณ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ และเพื่อให้การแลกเปลี่ยนข้อความระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์เป็นไปแนวเดียวกัน จึงมีการกำหนดมาตรฐานรหัสแทนข้อมูลในระบบเลขสองฐานโดยรหัสมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากมี 2กลุ่ม คือ รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาและรหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย.
รหัสแอสกี การกำหนดรหัสแทนข้อมูลขึ้นอยู่กับชนิดของข้อมูลและคอมพิวเตอร์รหัสที่ใช้แทนตัวอักขระที่เป็นมาตรฐานแบบหนึ่งเรียกว่า. รหัสแอสกี มาจากชื่ออังกฤษ
รหัสอักขระแต่ละตัวประกอบด้วย8บิต. คือ
บิตที่ 7 6 5 4 3 2 1
ตัวเลขฐานสอง8บิต หรือ 1ไบต์. สามารถใช้แทนรหัสต่างๆได้ถึง 256ตัว แต่รหัสตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้งหมดมีจำนวนรวมกันไม่เกิน 128 ตัว
ดังนั้น สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจึงได้กำหนดภาษาไทยเพิ่มเติมเพื่อใช้ในงานสารสนเทศเป็นภาษาไทยได้. เช่น
10100001= 1 ไบต์ ใช้แทนอักษร ก
10100010= 1 ไบต์ ใช้แทนอักษร ข
100100100= 1ไบต์ ใช้แทนอักษร ค
รหัสเอบซีดิก
เป็นกาีกำหนดรหัสแทนตัวอักขระที่ใช้กันแพร่หลายอีกแบบหนึ่ง การกำหนดรหัสตะใช้ 8 บิต. เหมือนกับรหัสแอสกี แต่แบบของรหัสที่กำหนดจะแตกต่างกัน คือ.
บิตที่ 0 1 2 3 4 5 6 7
หน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุดในระบบคอมพิวเตอร์มีค่าข้อมูลเป็นตัวเลขระบบฐานสอง คือ 0 และ 1บิต มักใช้เป็นหน่วยวัดความสามารถจองไมโครโพรเซสเซอร์ในการประมวลผลข้อมูล เช่น 16 บิตหรือ 32 บิต เท่ากับ 1 นิบเบิล
ระบบเลขฐานสอง
ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ต้องได้พบเจอกับจำนวนและการคำนวณอยู่ทุกวัน หากเราสังเกตจะพบว่าจำนวนที่เราคุ้นเคยอยู่ทุกวันนั้นไม่ว่าจะเป็นการซื้อของเป็นเงิน 39,587฿
จำนวนเงินฝากในธนาคาร 1,426,000฿หรือจำนวนใบแจ้งหนี้ค่ามือถือจำนวน 2,560฿ ล้วนแล้วแต่ประกอบขึ้นจากตัวเลข 10 ตัว คือ 0,1,2,3,4,5,6,7,8 และ 9
ต่อมา เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์.
ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ที่ทำงานแบบดิจิทัล และใช้ระดับปรงดันไฟฟ้าแสดงสถานะเพียง 2 สถานะ คือ ปิด(แทนด้วยo) และเปิด(แทนด้วย1)
นอกจากระบบเลขฐานสองแล้ว ในการทำงานของคอมพิวเตอร์ยังอาจเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลขระบบอื่น เช่น ระบบเลขฐานแปดและระบบเลขฐานสิบหก ซึ่งระบบเลขฐานสองจะมีแนวคิดในทำนองเดียวกันกับระบบเลขฐานสองและฐานสิบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น